แมวปากบวมเกิดจากอะไร? เจาะลึก 5 สาเหตุยอดฮิตที่เจ้าของควรรู้


 

1. แมลงสัตว์กัดต่อย (Insect Bites & Stings)

สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดสำหรับอาการบวมแบบเฉียบพลัน คือการที่น้องแมวไปเล่นกับ ผึ้ง ต่อ แตน หรือแมงมุม แล้วโดนต่อยเข้าที่บริเวณใบหน้าหรือริมฝีปาก

  • ลักษณะอาการ: บวมเป่งอย่างรวดเร็ว มักบวมข้างเดียว น้องแมวอาจจะเอาอุ้งเท้าเกาหรือถูหน้าบ่อยๆ

  • ข้อควรระวัง: หากบวมมากจนหายใจติดขัด หรือมีอาการซึม อาเจียน ควรรีบไปพบสัตวแพทย์เพราะอาจเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง (Anaphylaxis)

2. กลุ่มอาการตุ่มอักเสบชนิดอีโอซิโนฟิล (Eosinophilic Granuloma Complex)

นี่คือโรคผิวหนังที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน มักกระตุ้นโดยการแพ้ เช่น แพ้น้ำลายหมัด แพ้อาหาร หรือแพ้สิ่งแวดล้อม

  • ลักษณะอาการ: พบเป็นตุ่มนูน หรือแผลเปื่อยบริเวณริมฝีปากบน (ที่เรียกว่า Indolent Ulcer หรือ แผลปากแหว่ง) มักจะดูเหมือนปากบวมแดงและดูอักเสบเรื้อรัง

  • การรักษา: ต้องใช้ยาปรับภูมิคุ้มกันและกำจัดต้นตอของการแพ้

3. ปัญหาในช่องปากและฟัน (Dental Issues)

เหงือกอักเสบ รากฟันเป็นหนอง หรือฟันหัก สามารถส่งผลให้เนื้อเยื่อรอบๆ ปากบวมขึ้นมาได้

  • ลักษณะอาการ: ปากบวมร่วมกับมีกลิ่นปากแรง น้ำลายไหลยืด กินอาหารน้อยลง หรือเขี่ยอาหารออกจากปากขณะกิน

  • การรักษา: สัตวแพทย์อาจต้องขูดหินปูน ถอนฟันซี่ที่มีปัญหา หรือให้ยาปฏิชีวนะ

4. การแพ้สิ่งสัมผัส (Contact Allergy)

แมวบางตัวอาจแพ้ "ชามอาหารพลาสติก" ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย หรือแพ้สารเคมีในบ้าน

  • ลักษณะอาการ: คางและริมฝีปากล่างบวมแดง บางครั้งอาจมีสิวแมว (ตุ่มดำๆ) ร่วมด้วย

  • คำแนะนำ: ลองเปลี่ยนมาใช้ชามสแตนเลส เซรามิก หรือแก้ว และล้างทำความสะอาดทุกวัน

5. เนื้องอกหรือมะเร็งในช่องปาก (Oral Tumors)

สาเหตุที่น่ากังวลที่สุดคือเนื้องอก โดยเฉพาะในแมวที่มีอายุมาก

  • ลักษณะอาการ: บวมเป็นก้อนแข็ง ผิวสัมผัสขรุขระ อาจมีเลือดออกหรือมีกลิ่นเหม็นเน่า และก้อนเนื้อจะโตขึ้นเรื่อยๆ ไม่ยุบลงเอง

  • การรักษา: จำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยด้วยการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ (Biopsy) เพื่อวางแผนการรักษาต่อไป


ความคิดเห็น