5 โรคที่ซ่อนอยู่หลังอาการเดินกระเผลกของสุนัข ที่เจ้าของมักมองข้าม

 

1) เอ็นข้อสะโพกหรือข้อเข่าบาดเจ็บ (Soft Tissue Injury)

มักเกิดจากการวิ่งเล่น กระโดด หรือเลี้ยวแรงเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อ เอ็น หรือเส้นเอ็นรอบข้อตึงหรือฉีกเล็กๆ สุนัขจะยกขาเดินกะเผลก แต่ยังลงน้ำหนักได้บ้าง อาการแบบนี้พบได้บ่อยที่สุดในหมาที่ชอบซน โดยเฉพาะสายพันธุ์ล่ากลับของเล่นหรือวิ่งเร็วๆ

2) หมอนรองกระดูกเคลื่อน (Intervertebral Disc Disease – IVDD)

อาการนี้มักเกิดในสุนัขพันธุ์หลังยาวหรือขาเตี้ย เช่น ดัชชุนด์ คอร์กี้ บีเกิล เมื่อหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท สุนัขจะเดินโซซัดโซเซ เจ็บหลัง และบางครั้งถึงขั้นล้มได้ การรักษาต้องรีบพบสัตวแพทย์เพื่อป้องกันอัมพาตถาวร

3) โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip Dysplasia)

เป็นโรคที่พบในสุนัขพันธุ์ใหญ่ เช่น โกลเด้น ลาบราดอร์ ไซบีเรียนฮัสกี้ สุนัขจะมีอาการเจ็บสะโพก เดินโคลง กล้ามเนื้อสะโพกลีบลงเรื่อยๆ ยิ่งอายุมากขึ้นอาการจะมากขึ้น หากรักษาเร็ว เช่น กายภาพบำบัด ควบคุมน้ำหนัก หรือการใช้สเต็มเซลล์ จะช่วยให้สุนัขเดินดีขึ้นได้มาก

4) หัวเข่าหลุด (Patellar Luxation)

เจอบ่อยในสุนัขพันธุ์เล็กอย่างปอมชิ ผสมชิ คอร์กี้ บางทีเดินดีๆ อยู่แล้วกระโดดขาเดียว หรือเก็บขาข้างหนึ่งขึ้นทันที เพราะลูกสะบ้าหลุดออกจากตำแหน่งแล้วกลับเข้าที่ สังเกตง่ายคือเดินกระเผลกเป็นช่วงๆ ไม่ต่อเนื่อง

5) โรคข้ออักเสบจากอายุ (Osteoarthritis)

หมาสูงอายุหรือมีประวัติบาดเจ็บมาก่อนจะมีโอกาสข้อเสื่อม ข้ออักเสบ ทำให้เดินติดขัดหลังตื่นนอน ขาแข็งๆ กระเผลกตอนอากาศเย็นหรือหลังออกกำลังกาย การดูแลที่ดี เช่น โภชนาการที่ช่วยข้อเสื่อม การควบคุมน้ำหนัก การทำกายภาพ และการใช้สเต็มเซลล์ ช่วยลดอาการได้ดีมากในปัจจุบัน