อันตรายจากเหงือกอักเสบในแมว เสี่ยงโรคอื่นได้จริงหรือ?

 เหงือกอักเสบในแมว เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยมาก หลายครั้งเจ้าของอาจสังเกตเห็นว่าแมวมีอาการน้ำลายไหล มีกลิ่นปาก เหงือกแดงหรือบวม และบางตัวถึงขั้นไม่อยากกินอาหาร เพราะรู้สึกเจ็บปวดในช่องปาก อาการเหล่านี้อาจดูเหมือนเล็กน้อย แต่จริง ๆ แล้วอาจซ่อนโรคร้ายแรงเอาไว้ หากละเลยก็เสี่ยงทำให้สุขภาพแมวแย่ลงเรื่อย ๆ

โรคที่อาจเกิดขึ้นจากเหงือกอักเสบในแมว

  1. โรคปริทันต์ (Periodontal disease) – เป็นภาวะที่คราบหินปูนและเชื้อแบคทีเรียสะสม จนทำลายเหงือกและฟัน อาจทำให้แมวฟันโยก หลุด หรือปากติดเชื้อได้

  2. โรคช่องปากอักเสบเรื้อรัง (Stomatitis) – มักเกิดจากภูมิคุ้มกันของแมวตอบสนองต่อแบคทีเรียมากเกินไป ส่งผลให้ช่องปากอักเสบรุนแรง บางตัวเจ็บจนไม่อยากกินอาหาร

  3. โรคไวรัสในแมว – เช่น FeLV (ลิวคีเมียแมว) หรือ FIV (เอดส์แมว) ที่มักทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอและทำให้ช่องปากติดเชื้อง่ายขึ้น

  4. โรคไตเรื้อรัง – แมวที่มีปัญหาเหงือกและปาก อาจเชื่อมโยงกับการทำงานของไตที่ผิดปกติ เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียจากปากสามารถเข้าสู่กระแสเลือดและกระทบกับอวัยวะภายในได้

วิธีการรักษาและดูแลแมวที่มีเหงือกอักเสบ

  • พาไปพบสัตวแพทย์ – เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง บางครั้งอาจต้องตรวจเลือดหรือเอ็กซ์เรย์ฟัน

  • การขูดหินปูนและทำความสะอาดช่องปาก – ช่วยลดคราบจุลินทรีย์ที่เป็นต้นเหตุของการอักเสบ

  • ให้ยาตามสัตวแพทย์สั่ง – เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาลดอักเสบ หรือยาแก้ปวด เพื่อลดความทรมาน

  • ดูแลสุขภาพช่องปากที่บ้าน – เช่น การแปรงฟันแมวด้วยยาสีฟันเฉพาะสัตว์ หรือใช้เจลทำความสะอาดช่องปาก

  • โภชนาการที่เหมาะสม – อาหารเม็ดสูตรดูแลช่องปาก หรืออาหารเปียกสำหรับแมวที่เคี้ยวอาหารลำบาก

เหงือกอักเสบในแมวไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนโรคสำคัญหลายอย่าง ตั้งแต่โรคปริทันต์ ไปจนถึงโรคไวรัสหรือโรคไต การสังเกตพฤติกรรมแมว เช่น กินอาหารน้อยลง น้ำลายไหล หรือมีกลิ่นปากแรง เป็นสิ่งที่เจ้าของไม่ควรละเลย หากพบความผิดปกติ ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกวิธี จะช่วยให้แมวสุขภาพดีและมีความสุขได้นานขึ้น

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้ โรคเหงือกอักเสบ vs ช่องปากอักเสบเรื้อรังในแมว ต่างกันอย่างไร? - Precision Vet






ความคิดเห็น