5 ภาวะเสี่ยงเป็นโรคเหงือกอักเสบในแมว
1. อายุและการเสื่อมสภาพตามวัย
แมวที่มีอายุมากขึ้นมีแนวโน้มเป็นโรคเหงือกอักเสบสูง เนื่องจากเหงือกและฟันเริ่มเสื่อมสภาพตามวัย การสะสมของคราบหินปูนและแบคทีเรียจึงง่ายขึ้น ทำให้เกิดการอักเสบได้ง่าย หากแมวของคุณมีอายุมากกว่า 5 ปี ควรตรวจฟันและเหงือกอย่างสม่ำเสมอ
2. การขาดการทำความสะอาดช่องปาก
แมวหลายตัวไม่สามารถทำความสะอาดฟันเองได้อย่างทั่วถึง หากไม่มีการแปรงฟันหรือให้อาหารและของเล่นที่ช่วยทำความสะอาดช่องปาก คราบอาหารและแบคทีเรียจะสะสมจนเกิดการอักเสบ เหงือกแดงและเลือดออกเวลากินอาหารอาจเป็นสัญญาณเตือนที่เจ้าของไม่ควรมองข้าม
3. พันธุกรรมและสายพันธุ์
บางสายพันธุ์แมว เช่น แมวเปอร์เซียและแมวสก็อตติชโฟลด์ มีโครงสร้างปากและฟันที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคเหงือกอักเสบมากกว่าสายพันธุ์อื่น นอกจากนี้ พันธุกรรมอาจส่งผลให้แมวมีภูมิต้านทานต่ำต่อแบคทีเรียในช่องปาก ทำให้เกิดอักเสบได้ง่าย
4. ภาวะโรคเรื้อรังและภูมิคุ้มกันต่ำ
แมวที่มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคไต เบาหวาน หรือปัญหาเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน มีแนวโน้มเกิดโรคเหงือกอักเสบบ่อยกว่าแมวปกติ เพราะร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับแบคทีเรียในช่องปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ การรักษาและควบคุมโรคเรื้อรังจึงช่วยลดความเสี่ยงได้
5. อาหารและพฤติกรรมการกิน
แมวที่กินอาหารเปียกเป็นหลักหรือไม่เคี้ยวอาหารแข็ง จะมีโอกาสเกิดคราบหินปูนสูงกว่าปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการอักเสบของเหงือก นอกจากนี้ พฤติกรรมการกัดแทะของเล่นหรือวัตถุต่างๆ ก็สามารถสร้างบาดแผลในเหงือก ทำให้เกิดการติดเชื้อและอักเสบตามมา
การสังเกตอาการตั้งแต่เนิ่นๆ เช่น เหงือกแดง เลือดออกจากเหงือก น้ำลายเยอะ หรือแมวปฏิเสธอาหาร จะช่วยให้เราสามารถพาแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อรักษาได้ทันเวลา การแปรงฟันแมวอย่างสม่ำเสมอ ตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ และให้แมวกินอาหารที่เหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคเหงือกอักเสบได้อย่างมาก
สามารถอ่านรายละเอียดของโรคเหงือกอักเสบได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ https://www.precision-vet.com/2025/09/25/feline-chronic-gingivostomatitis-vs-feline-gingivitis/



ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น