วิธีสังเกตอาการบาดเจ็บขาของหมาที่ทำให้เดินกะเผลก🐾🐶

1. สังเกตพฤติกรรมผิดปกติขณะเดินหรือวิ่ง

หนึ่งในสัญญาณแรกที่เจ้าของหมาหลายคนสังเกตได้คือการ เดินกะเผลก เดินลากขา หรือยกขาข้างหนึ่งไม่ลงพื้น สุนัขอาจไม่อยากเดินหรือหลีกเลี่ยงการลงน้ำหนักที่ขาข้างใดข้างหนึ่งอย่างชัดเจน บางตัวอาจส่งเสียงร้องเมื่อขยับขา หรือเปลี่ยนท่านอนบ่อย ๆ เพราะรู้สึกเจ็บ หากสุนัขของคุณเคยร่าเริง ชอบวิ่งเล่น แต่จู่ ๆ กลับนิ่ง เงียบ หรือไม่อยากเดินเล่นเหมือนเคย นั่นอาจเป็นสัญญาณของการบาดเจ็บที่ขา หรือข้อกระดูก

2. ตรวจดูอาการบวม บาดแผล หรือการเคลื่อนไหวผิดปกติ

ให้คุณลองตรวจขาและข้อของสุนัขอย่างเบามือ มองหาสิ่งผิดปกติ เช่น ขาบวมผิดปกติ มีแผล มีรอยแดง หรือข้อต่อผิดรูป ลองขยับขาแต่ละข้างเบา ๆ เพื่อดูว่าสุนัขมีอาการเจ็บหรือไม่ บางครั้งปัญหาอาจเกิดจากเส้นเอ็นอักเสบ กล้ามเนื้อฉีก หรือแม้แต่กระดูกแตก ซึ่งจะทำให้สุนัขเจ็บเฉพาะจุด หากคุณไม่แน่ใจ แนะนำให้ถ่ายวิดีโอขณะสุนัขเดินหรือวิ่ง เพื่อให้สัตวแพทย์วินิจฉัยได้ง่ายขึ้น

3.ฟังเสียงร้อง หรือดูอาการเจ็บเมื่อถูกสัมผัส

สุนัขที่เจ็บขามักจะ ส่งเสียงร้องหรือตอบสนองไว เมื่อมีคนสัมผัสบริเวณที่บาดเจ็บ หากคุณลองลูบขาหรือจับข้อขาเบา ๆ แล้วสุนัขสะดุ้งหรือหันมาเลียตรงจุดนั้นบ่อย ๆ แสดงว่าอาจมีอาการเจ็บหรืออักเสบ บางครั้งสุนัขอาจแสดงออกโดยการ ไม่ยอมให้จับขา หรือเดินหนีทันทีเมื่อคุณพยายามแตะ จุดนี้สำคัญมากในการบ่งชี้ว่าอาการเจ็บมีอยู่จริง แม้จะมองไม่เห็นบาดแผลภายนอกก็ตาม

4.พาไปพบสัตวแพทย์เมื่ออาการไม่ดีขึ้นใน 1–2 วัน

หากผ่านไป 24–48 ชั่วโมงแล้วสุนัขยังคงเดินกะเผลก หรืออาการแย่ลง เช่น เริ่มไม่ยอมเดิน ไม่กินอาหาร หรือมีอาการปวดชัดเจน ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที โดยเฉพาะหากคุณสงสัยว่ามีปัญหากระดูก ข้อ หรือเส้นเอ็น บางกรณีอาจจำเป็นต้องตรวจเอกซเรย์ หรือใช้วิธีรักษาเฉพาะทาง เช่น การทำกายภาพบำบัด หรือการรักษาด้วยเซลล์ต้นกำเนิด ซึ่งเริ่มมีให้บริการในบางคลินิกสัตว์ในปัจจุบันแล้ว

หากคุณเริ่มสังเกตเห็นว่าสุนัขเดินผิดปกติ กะเผลก หรือมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป อย่ารอให้อาการลุกลาม ควรพาเขาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด เพราะการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ปัจจุบันยังมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น การทำกายภาพบำบัด หรือการรักษาด้วยสเต็มเซลล์ ที่ช่วยให้สุนัขกลับมาเคลื่อนไหวได้ดีอีกครั้ง💙





ความคิดเห็น